สุขภาพของผู้หญิงเริ่มต้นจากการดูแลที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะสุขภาพทางนรีเวช การตรวจแปปสเมียร์ (Pap smear) จึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ช่วยคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นภัยเงียบที่อาจไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่สามารถป้องกัน และรักษาได้หากพบเจอตั้งแต่ระยะเริ่มต้น สำหรับผู้หญิงในภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นคนท้องถิ่น หรือผู้ที่อาศัยอยู่ชั่วคราว เราจะพาคุณไปรู้จักกับการตรวจแปปสเมียร์อย่างละเอียด พร้อมแนะนำสถานที่ตรวจที่มีคุณภาพ เพื่อให้คุณได้วางแผนดูแลตัวเองอย่างมั่นใจ และถูกต้อง

ตรวจแปปสเมียร์ คืออะไร?
การตรวจแปปสเมียร์ (Pap smear) หรือที่เรียกว่า การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก คือ กระบวนการเก็บเซลล์จากบริเวณปากมดลูกเพื่อตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ที่อาจนำไปสู่มะเร็งปากมดลูกในอนาคต จุดประสงค์ของการตรวจนี้ไม่ใช่เพื่อวินิจฉัยโรคมะเร็งโดยตรง แต่เป็นการค้นหาระยะก่อนเป็นมะเร็ง หรือเซลล์ผิดปกติ เพื่อให้สามารถรักษาได้ทันท่วงทีก่อนจะลุกลาม
หลักการทำงานของแปปสเมียร์
แพทย์ หรือพยาบาลจะใช้เครื่องมือพิเศษเก็บตัวอย่างเซลล์จากบริเวณปากมดลูก แล้วส่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจสอบว่าเซลล์เหล่านั้นมีลักษณะผิดปกติหรือไม่ เช่น
- เซลล์มีรูปร่างหรือขนาดเปลี่ยนแปลง
- เซลล์มีแนวโน้มพัฒนาเป็นมะเร็ง
- พบการติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นไวรัสต้นเหตุของมะเร็งปากมดลูก
หากพบความผิดปกติ แพทย์จะวางแผนการตรวจเพิ่มเติม เช่น การทำ Colposcopy (ส่องกล้องดูปากมดลูก) หรือการเก็บชิ้นเนื้อ (Biopsy) เพื่อประเมินขั้นต่อไป
การตรวจแปปสเมียร์ต่างจากการตรวจ HPV อย่างไร?
แม้ว่าทั้งการตรวจแปปสเมียร์ (Pap smear) และการตรวจ HPV DNA test จะมีจุดมุ่งหมายหลักคือการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก แต่สองวิธีนี้มีหลักการตรวจที่แตกต่างกัน และมุ่งเน้นตรวจในแง่มุมที่ต่างกันของโรค
- Pap smear ตรวจเซลล์ผิดปกติที่อาจพัฒนาเป็นมะเร็ง Pap smear หรือ Papanicolaou test คือการเก็บเซลล์จากบริเวณปากมดลูก และนำไปส่องกล้องจุลทรรศน์เพื่อตรวจสอบว่าเซลล์มีลักษณะที่ผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะลักษณะที่อาจพัฒนาเป็นมะเร็งในอนาคต
- เหมาะสำหรับ การตรวจหาความเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในระยะก่อนเกิดโรค เช่น
- เซลล์อักเสบ
- เซลล์ผิดปกติในระดับเล็กน้อย (ASC-US, LSIL)
- เซลล์ผิดปกติในระดับสูง (HSIL)
- มะเร็งปากมดลูกในระยะแรก
- ข้อดีของ Pap smear
- ราคาไม่สูง
- เป็นการคัดกรองระยะเริ่มต้น
- ใช้กันแพร่หลายทั่วโลก
- ข้อจำกัดของ Pap smear
- ความไวในการตรวจไม่สูงเท่าการตรวจ HPV
- หากเซลล์ผิดปกติในระดับต่ำ อาจพลาดการตรวจพบได้
- อาจต้องตรวจซ้ำทุก 1–3 ปี ขึ้นกับอายุ และประวัติ
- เหมาะสำหรับ การตรวจหาความเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในระยะก่อนเกิดโรค เช่น
- HPV DNA Test ตรวจหาเชื้อไวรัสต้นเหตุของมะเร็ง HPV DNA Test คือ การตรวจหา DNA ของเชื้อไวรัส Human Papillomavirus (HPV) ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ แต่มีประมาณ 14 สายพันธุ์ที่จัดว่า “เสี่ยงสูง” และเป็นต้นเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก
- เหมาะสำหรับ การตรวจว่ามีการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงก่อมะเร็งหรือไม่ โดยเฉพาะ:
- HPV 16 และ HPV 18 (เสี่ยงสูงต่อการพัฒนาเป็นมะเร็ง)
- ตรวจแม้ในผู้ที่ยังไม่มีอาการผิดปกติของเซลล์
- ข้อดีของ HPV DNA Test
- ความไวสูงกว่า Pap smear
- ตรวจพบการติดเชื้อก่อนที่เซลล์จะเปลี่ยนแปลง
- หากผลปกติ สามารถเว้นการตรวจได้นานถึง 5 ปี
- ข้อจำกัดของ HPV DNA Test
- ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการตรวจ Pap smear
- อาจพบ HPV แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ติดเชื้อจะพัฒนาเป็นมะเร็ง ทำให้เกิดความวิตกเกินจำเป็นในบางราย
- ต้องอาศัยการวินิจฉัยร่วมจากแพทย์
- เหมาะสำหรับ การตรวจว่ามีการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงก่อมะเร็งหรือไม่ โดยเฉพาะ:
จะเลือกตรวจแบบไหนดี?
เกณฑ์เปรียบเทียบ | Pap Smear | HPV DNA Test |
ตรวจอะไร | ลักษณะผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก | การติดเชื้อไวรัส HPV |
ตรวจพบเร็วแค่ไหน | หลังเซลล์เริ่มเปลี่ยนแปลง | ตรวจเจอเชื้อ HPV ก่อนเซลล์ผิดปกติ |
ความแม่นยำ | ปานกลาง | สูง |
ความถี่ที่แนะนำ | ทุก 1–3 ปี | ทุก 5 ปี (หากผลปกติ) |
แนะนำช่วงอายุ | หญิงอายุ 21 ปีขึ้นไป | หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป |

การตรวจร่วม (Co-testing)
ในหลายประเทศรวมถึงแนวทางล่าสุดในไทย แนะนำให้ตรวจ Pap smear ร่วมกับ HPV DNA Test โดยเฉพาะสำหรับหญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป เพราะจะเพิ่มโอกาสการพบการเปลี่ยนแปลง หรือความเสี่ยงของมะเร็งได้แม่นยำ และเร็วขึ้น เนื่องด้วยปัจจุบันแพทย์มักแนะนำให้ทำทั้งสองการตรวจร่วมกัน (co-testing) โดยเฉพาะในกลุ่มหญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดกรอง
เหตุผลที่ควรตรวจแปปสเมียร์
การตรวจแปปสเมียร์ถือเป็นแนวทางสำคัญในการดูแลสุขภาพของผู้หญิงอย่างเชิงรุก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาความผิดปกติของเซลล์ในบริเวณปากมดลูกก่อนที่จะพัฒนาไปสู่ระยะที่รุนแรงขึ้น เช่น มะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่สามารถป้องกันได้ หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ
- ตรวจพบเซลล์ผิดปกติได้ตั้งแต่ยังไม่พัฒนาเป็นมะเร็ง Pap smear สามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในระยะก่อนมะเร็ง (Precancerous lesions) ได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการใด ๆ ช่วยให้สามารถเริ่มต้นการรักษาได้ตั้งแต่ต้น ลดโอกาสที่เซลล์เหล่านั้นจะพัฒนาไปเป็นมะเร็งในอนาคต
- ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาหาย หากพบโรคในระยะเริ่มต้น การตรวจพบโรคมะเร็งในระยะเริ่มต้น มีแนวโน้มสูงที่จะรักษาให้หายขาดได้ และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาเมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาโรคในระยะลุกลาม
- เป็นการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน มากกว่ารอให้เกิดอาการ มะเร็งปากมดลูกมักไม่มีอาการในระยะเริ่มต้น การตรวจ Pap smear จึงเป็นการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่ารอให้มีอาการผิดปกติ เช่น เลือดออกผิดปกติ หรือปวดท้องน้อยเรื้อรัง ซึ่งมักเกิดในระยะโรคลุกลามแล้ว
การตรวจแปปสเมียร์ควรเริ่มเมื่อไร?
คำแนะนำโดยทั่วไปจากองค์กรด้านสาธารณสุขทั้งในประเทศไทย และระดับสากล เช่น WHO และ CDC ได้แก่
- หญิงที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป และเคยมีเพศสัมพันธ์ ควรเริ่มตรวจแปปสเมียร์ทุก 3 ปี
- หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป สามารถเลือกตรวจ Pap smear ร่วมกับ HPV DNA test ทุก 5 ปี หากผลตรวจปกติ
- หากมีความเสี่ยงสูง เช่น เคยติดเชื้อ HPV หรือมีประวัติผลตรวจผิดปกติ ควรตรวจตามคำแนะนำเฉพาะจากแพทย์
การตรวจควรทำอย่างต่อเนื่องจนถึงอายุประมาณ 65 ปี หากผลตรวจยังคงปกติ และไม่มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติม

ใครบ้างที่ควรตรวจแปปสเมียร์?
การตรวจแปปสเมียร์เหมาะสำหรับผู้หญิงทุกคนที่มีความเสี่ยง แม้ว่าจะไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ก็ตาม โดยเฉพาะกลุ่มต่อไปนี้
- ผู้หญิงที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป เริ่มเข้าสู่ช่วงที่ความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงเซลล์เพิ่มมากขึ้น
- ผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก
- ผู้หญิงที่เคยติดเชื้อ HPV หรือเคยมีผลตรวจเซลล์ผิดปกติในอดีต ควรตรวจอย่างสม่ำเสมอเพื่อเฝ้าระวังการกลับมาของเซลล์ผิดปกติ
- ผู้หญิงที่มีคู่นอนหลายคน หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการติดเชื้อ HPV
- ผู้หญิงที่สูบบุหรี่ หรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี หรือได้รับยากดภูมิ ควรตรวจถี่กว่าคนทั่วไป เนื่องจากมีโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ได้ง่ายขึ้น
การเตรียมตัวก่อนตรวจแปปสเมียร์
เพื่อให้ผลตรวจแม่นยำที่สุด ควรเตรียมตัวดังนี้
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการตรวจอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอดหรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภายใน
- ไม่ควรตรวจขณะมีประจำเดือน เพราะอาจส่งผลต่อความแม่นยำ
- สวมเสื้อผ้าที่สะดวกต่อการถอด และใส่
- พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อลดความกังวล
ตรวจแปปสเมียร์ในภูเก็ตได้ที่ไหนบ้าง?
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก คลินิกคุณภาพสูงใจกลางเมืองภูเก็ต ให้บริการตรวจแปปสเมียร์ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมระบบจองคิวล่วงหน้าออนไลน์ และบริการดูแลหลังการตรวจ โดยมีความเป็นส่วนตัว และมาตรฐานระดับสากล
- โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นโรงพยาบาลรัฐที่มีความน่าเชื่อถือ ให้บริการตรวจแปปสเมียร์แก่ประชาชนในราคาย่อมเยา มีคลินิกนรีเวชให้คำปรึกษา และให้บริการทุกสัปดาห์
- โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในจังหวัด ให้บริการตรวจแปปสเมียร์โดยสูตินรีแพทย์เฉพาะทาง มีโปรแกรมตรวจสุขภาพสตรีที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย
- คลินิกสุขภาพสตรีเอกชนหลายแห่งในป่าตอง กะตะ และราไวย์ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้พักอาศัยในพื้นที่รีสอร์ต ซึ่งอาจมีบริการตรวจสุขภาพครบวงจร รวมถึงการตรวจแปปสเมียร์ในบรรยากาศที่เป็นมิตร และสะดวกสบาย
ค่าใช้จ่ายในการตรวจแปปสเมียร์ในภูเก็ต
ราคาขึ้นอยู่กับสถานพยาบาล โดยทั่วไปจะอยู่ที่
- โรงพยาบาลรัฐ ประมาณ 200-500 บาท
- คลินิกเอกชนขนาดกลาง 500-1,200 บาท
- โรงพยาบาลเอกชนระดับพรีเมียม 1,500-3,000 บาท
บางแห่งอาจมีแพ็คเกจรวมกับการตรวจสุขภาพสตรีแบบครบวงจร ทำให้ราคาคุ้มค่ากว่า
ตรวจแปปสเมียร์บ่อยแค่ไหนจึงเหมาะสม?
- หากผลตรวจปกติ: ตรวจทุก 3 ปี
- หากเคยมีผลผิดปกติเล็กน้อย: อาจต้องตรวจซ้ำภายใน 6-12 เดือน
- หากตรวจร่วมกับ HPV DNA Test: สามารถเว้นระยะได้นานขึ้นถึง 5 ปีหากผลปกติ
ข้อควรรู้หลังการตรวจแปปสเมียร์
- อาจมีเลือดออกเล็กน้อยภายใน 1-2 วันแรก ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล
- ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หรือสวนล้างช่องคลอดใน 24 ชั่วโมงแรก
- หากผลผิดปกติ แพทย์จะนัดตรวจเพิ่มเติม เช่น Colposcopy หรือ HPV Typing

ตรวจแปปสเมียร์กับคนข้ามเพศได้ไหม?
แน่นอน คนข้ามเพศหญิงที่ยังมีปากมดลูกสามารถเข้ารับการตรวจแปปสเมียร์ได้เช่นกัน ควรแจ้งแพทย์เพื่อเตรียมการตรวจให้เหมาะสม ทั้งในแง่ร่างกาย และจิตใจ คลินิกที่มีประสบการณ์ดูแลผู้มีความหลากหลายทางเพศมักจะให้บริการด้วยความเข้าใจ และไม่ตัดสิน
ทำไมควรตรวจแปปสเมียร์แม้ไม่มีอาการ?
มะเร็งปากมดลูกในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ การตรวจแปปสเมียร์เป็นวิธีเดียวที่จะตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรอให้มีอาการจึงอาจสายเกินไป
การตรวจแปปสเมียร์ที่ ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก
- บริการตรวจ Pap smear โดยทีมแพทย์ และพยาบาลเฉพาะทาง คลินิกให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear) ด้วยทีมสูตินรีแพทย์ และพยาบาลที่ชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาผลตรวจอย่างละเอียด
- รองรับการตรวจแบบ Liquid Prep และ HPV DNA test นอกจาก Pap smear แบบปกติ คลินิกยังมีบริการตรวจโดยใช้เทคนิค Liquid Preparation ที่ช่วยลดการมีเลือดหรือมูกมารบกวน และระบบตรวจ HPV DNA ซึ่งช่วยตรวจหาสายพันธุ์ไวรัส HPV ได้ตรง และแม่นยำ
- ใช้เทคโนโลยีห้องปฏิบัติการคุณภาพสูง ควบคุมคุณภาพการตรวจด้วยห้องแล็ปมาตรฐาน เครื่องมือครบครัน และเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อให้ผลเร็ว และแม่นยำ
- สะดวก: สามารถ walk-in หรือจองออนไลน์ได้ เปิดให้บริการทุกวันโดยสามารถ walk-in เข้ามาตรวจเอง หรือจองคิวผ่านระบบออนไลน์ (เช่น ผ่าน Line หรือเว็บไซต์จองคิว)
- บรรยากาศเป็นมิตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ คลินิกตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต มีที่จอดรถ ห้องตรวจส่วนตัว เครื่องปรับอากาศ อินเทอร์เน็ตฟรี และน้ำดื่มบริการ เพื่อความสะดวกของผู้รับบริการ
- ผลตรวจเร็ว – พร้อมคำแนะนำจากแพทย์มืออาชีพ ผู้รับบริการจะได้รับรายงานผลตรวจอย่างรวดเร็ว พร้อมคำแนะนำด้านการดูแล หรือขั้นตอนอื่น ๆ ต่อไปหากผลพบว่าผิดปกติ เช่น ส่งตรวจต่อ Colposcopy, urology หรือ HPV DNA ต่อยอด
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
- บริการตรวจเลือด ตรวจแล็ป ในห้องปฏิบัติการ (Lab) ที่มีการรับรองมาตรฐานคุณภาพ
- ทำไมต้องเลือก ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก (Phuket medical clinic)
การตรวจแปปสเมียร์ไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพ แต่คือการดูแลตัวเองในระยะยาว โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ตที่มีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่มาก การเลือกสถานพยาบาลที่เหมาะสม พร้อมการเตรียมตัวอย่างถูกต้อง จะช่วยให้การตรวจครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดี และส่งผลต่อสุขภาพอย่างยั่งยืน
หากคุณอยู่ในภูเก็ต และกำลังคิดจะตรวจแปปสเมียร์ อย่ารอช้า เพราะสุขภาพไม่ควรรอ!
ช่องทางการติดต่อ
สาขาลากูน่า
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาลากูน่า ตั้งอยู่ที่ 58/1 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83100
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 22.00 น.
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 236 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/SXaeLrSU9Lx47YPH6
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmclaguna.youcanbook.me
สาขาในเมือง
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ 41/7-41/8 ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 20.00 น.
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 288 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/yeU9qNArGg3qdwZw9
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmctown.youcanbook.me
สาขาหอนาฬิกา
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาหอนาฬิกา ตั้งอยู่ที่ 206/8 ถ. ภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 12.00 – 20.00น. (ช่วงเเรก)
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 696 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/svPvTabmmD1DHe9v9
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me
เอกสารอ้างอิง
- World Health Organization (WHO). Cervical cancer: Prevention and control strategies. Guidelines on early detection and screening. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/cervical-cancer
- Centers for Disease Control and Prevention (CDC). Cervical Cancer Screening Guidelines. Comprehensive guidance on Pap test and HPV testing. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.cdc.gov/cancer/cervical/basic_info/screening.htm
- กระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทย. เว็บไซต์กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. ข้อมูลการป้องกันและคัดกรองมะเร็งปากมดลูก. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th
- สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.). ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน HPV และการตรวจแปปสเมียร์. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.fda.moph.go.th
- National Cancer Institute (NCI). Pap and HPV Testing Fact Sheet. Summary of cervical cancer detection methods. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.cancer.gov/types/cervical/pap-hpv-testing-fact-sheet